ปัจจุบัน ในการบริโภคอาหารแต่ละมื้อของคนไทยมักมีส่วนประกอบของพริก เนื่องจากคนไทยชอบรับประทานอาหารค่อนข้างจัด จึงมีพริกเป็นส่วนประกอบของอาหารและยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ดังนั้น เรามาปลูกพริกกินเองที่บ้านช่วยลดต้นทุนและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กัน
วิธีการปลูกพริก
- เตรียมดินสำหรับเพาะเมล็ดพริก โดยหาวัสดุใส่ดินสำหรับเพาะ ส่วนดินซื้อได้ตามร้านต้นไม้ ขึ้นกับความสมบูรณ์ของดิน
- นำดินที่ได้มาขยี้ให้ละเอียด จากนั้นโรยเมล็ดพริกลงดินที่เตรียมไว้ ไม่ควรโรยให้แน่นหรือใกล้กันจนเกินไป เพราะจะเกิดการแย่งอาหารกัน หรือ รากพันกัน ทำให้แยกต้นไปปลูกลำบาก
- หากมีกะบะเพาะ ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นขณะหยอดเมล็ดพริก 5 เซนติเมตร และระหว่างแถว 10 เซนติเมตร
- นำเศษฟางหรือหญ้าแห้งมาปิดคลุมหน้าดินไว้ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- นำกระถางไปตั้งตากแดดไว้ในอุณหภูมิที่พอเหมาะทำให้ดินร้อน จะช่วยกระตุ้นให้เมล็ดพริกงอกได้เร็วขึ้นกว่าการตั้งกระถางไว้ในร่ม
- ให้รดน้ำเช้าและเย็น เพิ่มความชื้นให้กับเมล็ดพริก ภายใน 3-7 วัน จะเริ่มเห็นต้นพริกงอกออกหรือแตกยอดออกมา
- เมื่อเมล็ดพริกงอก มีใบจริง 2-3 ใบ ควรเลือกถอนต้นกล้าที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง เหลือไว้เฉพาะต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์ไว้
- ควรดูแลกล้าพริกที่เพาะไว้ในกระถางเพาะประมาณ 1 เดือน หรือมีใบจริงราว 5-6 ใบ
- จากนั้นจึงแยกต้นพริก นำไปปลูกยังกระถางที่มีดินมากพอต่อความต้องการของต้นพริก หรือมีธาตุอาหารเพียงพอต่อการปลูกพริก
ไม่ควรเลือกกระถางปลูกที่มีขนาดเล็กเกินไป เพราะกระถางขนาดเล็กจะบรรจุดินได้น้อย เมื่อดินปลูกน้อยจะเก็บรักษาความชื้นไว้ได้ไม่นาน
การให้น้ำ
- 3 วันแรกให้น้ำเช้าเย็น
- 4 วันต่อมาให้น้ำวันละครั้ง
- ช่วงสัปดาห์ที่ 2 – สัปดาห์ที่ 4 ให้น้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- สัปดาห์ที่ 5 ถึงสัปดาห์ที่ 7 ให้น้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- สัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไป ให้น้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
*ทั้งนี้ การให้น้ำแก่พริก ควรให้ตามสภาพอากาศและดูความชุ่มชื้นของดินประกอบด้วย
การพรวนดิน
เนื่องจากรากของพริกจะกระจายอยู่ใกล้ผิวดิน จึงควรระวังในการพรวนดิน อย่าให้รากกระทบกระเทือน เพราะจะทำให้พริกชะงักการเจริญเติบโต และโค่นล้มง่าย