รู้แล้วต้องรีบหา “ชะอม” มาทำเมนูอร่อยกันเลย เพราะพืชผักทำอาหารบ้านๆ นี้ มี”สรรพคุณ” เกินราคา ทั้งป้องกันโรค บำรุงผิวพรรณ แถมยังบำรุงกระดูก
วันนี้เตรียมหาเมนูจาก“ชะอม”มาปรุงกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ‘ชะอมชุบไข่’กินกับน้ำพริกกะปิ ‘แกงส้มชะอมทอด’ ‘วุ้นเส้นผัดไข่ใส่ชะอม’ ‘แกงคั่วหอยขม’ และอื่นๆ เพราะชะอมเป็นพืชสวนครัวขึ้นริมรั้วธรรมชาติ ที่ให้เรากินได้ทุกฤดูกาล และแม้จะมีกลิ่นแรงแต่มีสรรพคุณแพงกว่าราคาแน่นอน
อุดมคุณค่าสารอาหารรอบด้าน บำรุงร่างกาย บำรุงผิว สายตา และกระดูก
จากข้อมูลของกองโภชนาการ ใน 100 กรัม ให้แคลอรี่สูงถึง 80 Kcal ยอดผักมีวิตามินเอ สูงถึง 1007 ไมโครกรัม โปรตีน 9.5 กรัม วิตามินบี 1 0.05 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.24 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 1.5 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม เส้นใย 5.7 กรัม วิตามินซี 58 มิลลิกรัม แคลเซียมสูงถึง 58 มิลลิกรัม เหล็ก 4.1 มิลลิกรัม นับว่าเป็นผักที่มีประโยชน์สูงต่อสุขภาพ
บำรุงร่างกาย
- แคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันกระดูกพรุน เหมาะกับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองและผู้ใหญ่
- อุดมด้วยธาตุเหล็ก โดยจะช่วยในการบำรุงเลือด ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น
- มีใยอาหารสูง จึงช่วยระบายท้อง แก้อาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- มีฟอสฟอรัสสูง ฟอสฟอรัสจะช่วยให้วิตามินต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
- ลดความร้อนในร่างกาย ด้วยการนำยอดอ่อนมารับประทาน ส่วนนี้เป็นส่วนที่นิยมรับประทานกันมากที่สุด
- ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร ช่วยลดลมในกระเพาะ ทำให้คลายจากอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
- บำรุงเส้นเอ็น ป้องกันไม่ให้เส้นเอ็นเสื่อมได้ง่ายๆ และยังช่วยให้เส้นเอ็นแข็งแรงอีกด้วย
- รักษาการอักเสบ เช่น อาการอักเสบที่ลิ้น และลดอาการผื่นแดง
ป้องกันโรคภัย
- มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งและช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- มีวิตามินซี ชะอมจึงมีฤทธิ์เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ป้องกันโรคต่างๆ
บำรุงสายตา
เพราะชะอมอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระในร่างกายได้เป็นอย่างดี
บำรุงผิวและผม
- บำรุงผิวพรรณให้ดูมีน้ำมีนวล อ่อนเยาว์ ไม่ดูแก่ก่อนวัย
- ช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางาม มีน้ำหนักเป็นธรรมชาติ และลดการแตกปลายของเส้นผมได้
ข้อควรระวังในการกิน
- คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอด อาจแพ้กลิ่นแรงของชะอม ทำให้มีอาการแพ้ท้อง หรือรู้สึกพะอืดพะอม ไม่สบายได้มากขึ้น
- ควรรับประทานชะอมในหน้าร้อน เพราะชะอมจะมีรสชาติดีกว่าหน้าฝนที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นแรง
- ก่อนนำชะอมมารับประทานควรล้างทำความสะอาดให้ดี และควรปรุงให้สุกก่อนที่จะทาน เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากดินหรือน้ำที่อาจติดมา จนทำให้มีอาการท้องเสียปวดท้อง ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นมูกได้
- คนที่เป็นโรคเกาต์ควรงดการทานชะอม เพราะในชะอมมีพิวลีนสูง ซึ่งพิวลีนจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ออักเสบ ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคเกาต์มีอาการกำเริบมากยิ่งขึ้น
….หากใครเห็นสรรพคุณแล้วอยากจะลองปลูกเองก็ไม่ยาก เพราะเดี๋ยวนี้มีกิ่งชะอมขายให้นำมาปลูกกันได้ง่ายๆ ยิ่งปลูกริมรั้วก็ช่วยกันสัตว์ได้ดีเพราะมีหนาม หิวเมื่อไรก็เด็ดมาทำอาหารกันได้เลยจ้า…