Four Farm
เกษตรสร้างอาชีพ

ปลูก Monstera อาชีพทางเลือกสำหรับเกษตรกร

พลูประดับ (Monstera) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในด้านการจัดงานในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานภูมิทัศน์ หรืองานมงคลต่างๆ ด้วยความที่พืชชนิดนี้โตไวและขยายพันธุ์ง่าย อีกทั้งยังขายได้ราคาที่ดี เพราะยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักธรรมชาติ และยิ่งลักษณะของพลูประดับที่มีลักษณะที่แปลกตา จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับพลูประดับอีกด้วย

ลักษณะทั่วไป เป็นพืชในเขตร้อนชื้น มีลักษณะใบสวยเป็นมัน ใบมีคุณภาพดี ใบมีลักษณะเป็นแฉกฉลุบนพื้นใบ เป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของพืชในตระกูลนี้ พืชชนิดนี้เป็นพืชชนิดเลื้อย ทอดยาวไปตามพื้นดินหรือหลักที่ค้ำพยุงต้น มีรากทุกข้อปล้อง ขยายพันธุ์ค่อนข่างง่าย เป็นพืชอายุยืนนานหลายปี มอนสเตอล่ามีศักยภาพในการจำหน่ายสูง เพราะไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ราคาค่อนข้างสูง จำหน่ายง่าย อีกทั้งเป็นพืชที่ปลูกค่อนข้างง่าย แข็งแรง ทนทานต่อโรคและแมลง อายุการปลูกนาน มีปริมาณผลผลิตตลอดทั้งปี

ขั้นตอนการปลูก

วัสดุที่ต้องเตรียม

เปลือกมะพร้าวสับและขุยมะพร้าวหรือแกลบดิบ

วิธีการปลูก

1. ปลูกลงในแปลงเพื่อตัดใบ

ลักษณะนี้จะใช้ระยะปลูก 1 x 1 เมตร เพราะการปลูกในลักษณะนี้ ต้นมอนสเตอล่าจะเจริญเติบโตดี และมีต้นขนาดใหญ่จะได้มีใบที่มีขนาดใหญ่ ในด้านการเตรียมแปลงจะใช้ปุ๋ยคอกหมักผสมกับแกลบดิน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินและรองก้นหลุม อัตราที่ใช้ คือ 5-10 กิโลกรัม/1 ตารางเมตร แล้วนำต้นมอนสเตอล่าที่เตรียมแปลงภายใต้โรงเรือนที่มีซาแรนพรางแสงชนิด 70 เปอร์เซ็นต์ จะเหมาะสมที่สุด

2. การปลูกในถุงดำขนาดใหญ่

เพื่อผลิตใบมอนสเตอล่าที่มีใบขนาดเล็กและใบขนาดปานกลาง เพราะรากของต้นพืชจะไม่ลงในดินเพื่อหากินอาหาร ทำให้ต้นมีลักษณะเล็กตามไปด้วย การปลูกวิธีนี้เป็นที่นิยมกันแพร่หลายซึ่งใบที่ได้มีขนาดเล็กตามความต้องการของผู้บริโภค โดยใช้ระยะปลูก 50 x 50 เซนติเมตร ซึ่งวัสดุปลูกที่ใช้ประกอบด้วย ปุ๋ยคอกหมัก แกลบดิน แกลบดำ ขุยมะพร้าว อัตราส่วน 1:1:1:1 โดยที่ปลูกภายใต้โรงเรือนพรางแสงชนิด 70 เปอร์เซ็นต์ จะเหมาะสมที่สุด

การดูแลรักษา

การดูแลจัดการด้านการปลูกมอนสเตอล่าเพื่อการผลิตเป็นไม้ตัดใบ ควรปลูกต้นพืชภายใต้โรงเรือนพลาสติกจะเหมาะสมที่สุด หรือปลูกภายในโรงเรือนที่มีซาแรนพรางแสงชนิด 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้พืชได้รับความเข้มแสงในปริมาณที่เหมาะสมใบที่ได้จะมีลักษณะสีเขียวเข้มเป็นมัน มีคุณภาพดีและอายุการใช้งานนาน

การให้ปุ๋ย

โดยปกติจะใช้ปุ๋ยสูตร RPF ของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นหลักโดยรดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งตามความเหมาะสม โดยใช้ควบคู่กับปุ๋ยทางใบ เช่น ยูนิเลท ไปโฟลาน โกลด์ฟิช ปุ๋ยเกร็ดต่างๆ เช่น 10-20-30, 30-20-10, 12-54-12 ตามความเหมาะสม

การให้น้ำ

อาจใช้สปริงเกอร์หรือใช้สายยางรดก็ได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ

การเก็บเกี่ยว

การเก็บเกี่ยวควรเก็บเกี่ยวเมื่อใบพืชแก่เต็มที่ จะมีลักษณะสีเขียวเข้มเป็นมัน ไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลาย และควรตัดชิดโคนก้านใบ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดลักษณะชั้นเกรดของใบพืชชนิดนี้ แต่ที่เหมาะสม คือ ควรมีความกว้างขวางของใบ ตั้งแต่ 20 เซนติเมตรขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 50 เซนติเมตร เพราะถ้าหากมากกว่านี้ใบจะมีลักษณะใหญ่เกินไปยากต่อการขนส่ง ความต้องการของตลาดผู้บริโภคมีปริมาณน้อย ส่วนความยาวของก้านใบตั้งแต่ 6 เซนติเมตรขึ้นไป

วิธีการเก็บเกี่ยว

ควรคัดใบที่มีขนาดใกล้เคียงกันเข้าด้วยกันและมัดเข้ากำจำนวน 10 ใบ/กำ ใบพืชจะต้องไม่มีโรคและแมลงเข้าทำลาย จากนั้นพันก้านด้วยสำลี แล้วห่อด้วยถุงพลาสติก อีกครั้งหนึ่งแล้วนำไปแช่ในน้ำที่สะอาดต่อไป

จะเห็นได้ว่าการปลูกพลูประดับ(Monstera) จึงกลายเป็นอาชีพทางเลือกให้กับเกษตรกรยุคใหม่ได้

 

 

 

แหล่งที่มา

ขอขอบคุณ : คมชัดลึก / มอนสเตอล่า / Monstera

Related posts

การปลูกปอเทืองในนาข้าว

Kaset Pro
2 years ago

เปลี่ยนผืนนา มาปลูกแตงโม

Kaset Pro
2 years ago

วิธีดูแล คล้าใบตอง ไม้ใบสวย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความท้าทายในการดูแล

Kaset Pro
2 years ago
Exit mobile version