Four Farm
บทความ

วิธีปลูกกระท้อน ด้วยตัวเองให้ได้ผลงอกงาม

sliced santol fruit on wooden background, the famous fruit of Lop Buri, Thailand and seasonal fruit on june.

กระท้อนถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจของไทย เป็นไม้ยืนต้นซึ่งปลูกง่าย มีหลากหลายสายพันธุ์ แถมต้นกระท้อนยิ่งมีอายุมากเท่าไหร่ยิ่งให้ผลดี และต้นจะสมบูรณ์แข็งแรงตามไปด้วย วันนี้เราจึงนำ วิธีปลูกกระท้อน มาฝากกันค่ะ

วิธีปลูกกระท้อน ด้วยตัวเอง

สมัยก่อนนิยมปลูกกระท้อนด้วยวิธีเพาะเมล็ด จะทำให้กลายพันธุ์ บางครั้งอาจได้พันธุ์ที่มีคุณภาพดีกว่าต้นแม่แต่ก็มีไม่มากนัก แอดจึงขอแนะนำวิธีปลูกด้วยต้นกล้านะคะ เลือกหาซื้อสายพันธุ์ที่ชอบได้ตามตลาดต้นไม้ หรือ ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ก็ได้ค่ะ

 

ขั้นตอนแรก ต้องเตรียมดินให้พร้อมเสียก่อน ต้นกระท้อนจะเจริญงอกงามดีหากปลูกด้วยดินร่วนปนทราย เริ่มแรกให้ไถพรวนปรับหน้าดินแล้วคลุกด้วยปุ๋ยคอก มูลไก่ มูลวัว ทิ้งไว้ 10 วัน แล้วไถพรวนอีกครั้งให้ดินละเอียดร่วนซุย ดินจะได้โปร่งขึ้น รากจะไม่เน่า แล้วขุดหลุมให้มีขนาดไม่ต่ำกว่า กว้าง 50 เมตร x ยาว 50 เมตร x ลึก 50 เมตร เพราะยิ่งหลุมมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งดี จะช่วยให้ต้นกระท้อนโตเร็วมากยิ่งขึ้น ผสมดินที่ขุดขึ้นมากับปุ๋ยคอกเก่า ๆ รองก้นหลุม ประมาณ 10 กก. ต่อหลุม ตามด้วยปุ๋ยหินฟอสเฟต ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อหลุม กลบดินผสมลงในหลุมให้พูนขึ้นกว่าระดับปากหลุมเล็กน้อย นำถุงชำต้นกระท้อนออกแล้ววางต้นกระท้อนที่เตรียมไว้ปลูกลงกลางหลุม จากนั้นกดดินให้แน่น ใช้ไม้หลักป้ายยึดลำต้นกันลมพัดโยก รดน้ำให้ชุ่ม ถ้ามีแดดจัดควรติดสแลนเพื่อเบาแดดจะทำให้ต้นกระท้อนตั้งตัวเร็วขึ้น ระยะปลูกต้นกระท้อนควรห่างกันตั้งแต่ 6 x 8 เมตร ถึง 5 x 8 เมตร เพื่อให้ไม่แย่งแสงแดดและอาหารกัน ทั้งยังสะดวกต่อการเข้าห่อผลกระท้อน การเก็บเกี่ยวและตัดแต่งกิ่งอีกด้วย เพราะกระท้อนเป็นไม้ผลที่ทรงพุ่มขนาดใหญ่เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาและห่อผลซึ่งจะต้องทำทุกปี จึงนิยมตัดแต่งกิ่งนำที่จะทำให้ทรงพุ่มสูงขึ้นไปออกเสีย ทรงพุ่มจะขยายออกด้านข้างแทนด้านบน จึงสะดวกในการปฏิบัติงาน

 

กระท้อน

 

กระท้อนเป็นพืชที่ชอบน้ำแต่ขณะเดียวกันก็ทนสภาพความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี ในช่วงที่กระท้อนยังเล็กอยู่จะต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้นกระท้อนเติบโตขึ้นการให้น้ำก็จะมีช่วงห่างขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงที่ต้นกระท้อนเริ่มออกช่อดอกและติดผลจะต้องให้น้ำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ช่อดอกมีความสมบูรณ์ การติดผลดี ผลที่ติดแล้วจะเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ สวนที่มีการให้น้ำดีจะทำให้ผลมีขนาดโตกว่าสวนที่ขาดแคลนน้ำ และยังลดปัญหาเรื่องผลแตกได้ ซึ่งปัญหานี้จะพบเสมอในสวนที่ขาดแคลนน้ำ

การดูแลรักษาหลังปลูก
หลังจากปลูกแล้วจะต้องคอยดูแลรักษาต้นกระท้อนอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่ากระท้อนจะเป็นไม้ผลที่ไม่ค่อยมีโรคแมลงรบกวนมากนัก แต่การบำรุงรักษาให้ดีอยู่เสมอจะช่วยให้ต้นกระท้อนเจริญเติบโตเร็วมาก การดูแลรักษาโดยทั่วไปมีดังนี้

การห่อผลกระท้อน = ขั้นตอนสำคัญในการปลูกกระท้อนให้ได้ผลงาม
การห่อผลกระท้อน ควรห่อเมื่อผลกระท้อนเริ่มมีขนาดเท่าผลมะนาว เพื่อให้ผลสวย ผิวเรียบเนียน ป้องกันแมลงวันทองมาเจาะกินหรือวางไข่ ซึ่งจะทำให้ผลร่วงเสียหาย

 

 

การตัดแต่งกิ่ง
ต้นกระท้อนที่ยังไม่ให้ผล เราจะตัดแต่งกิ่งเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ส่วนต้นที่เริ่มให้ผลกระท้อนบ้างแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งที่หนาทึบออกให้โปร่งๆ เข้าไว้ โดยมีเกณฑ์การเลือกตัดแต่งกิ่งให้พิจารณาตัดกิ่งดังต่อไปนี้

– กิ่งที่ถูกโรคแมลงเข้าทำลาย กิ่งแห้งตาย

– กิ่งที่แน่นทึบอยู่ในทรงพุ่ม

– กิ่งนำซึ่งมักจะเจริญเติบโตไปในแนวสูงทำให้ทรงพุ่มสูงขึ้น ควรจะตัดเพื่อควบคุมทรงพุ่มให้มีการเจริญออกทางด้านกว้างมากกว่า เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา ตลอดจนการห่อผลและเก็บเกี่ยวผลผลิต

การกำจัดวัชพืช
วัชพืชมักเจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน สำหรับสวนเล็กๆ สามารถใช้จอบดายหญ้าได้ แนะนำให้กำจัดวัชพืช 3 – 4 ครั้งต่อปี เพื่อป้องกันการแย่งอาหารจากต้นกระท้อน

หลังเก็บเกี่ยวแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงพักต้น ให้บำรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ซึ่งเราสามารถผสมเองได้โดย ผสมกระดูกป่น แกลบ มูลไก่ มูลวัว และมูลค้างคาวมาหมักเข้าไว้ด้วยกัน ใส่รอบๆ ต้นกระท้อนปีละครั้ง พร้อมไถพรวนรอบต้นให้ดินโปร่ง ร่วนซุย และตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ต้นกระท้อนได้รับแสงอาทิตย์เพียงพอ

 

Related posts

การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ

Kaset Pro
2 years ago

ผักกูดพืชป่าที่เป็นอาหารได้

Kaset Pro
2 years ago

กำจัดเชื้อราในดิน ทำเองได้ง่ายมาก ทำไม่กี่ขั้นตอน

Smile Smile
3 years ago
Exit mobile version