หลังมีการปลดล็อกกัญชา จากที่เป็นสารเสพติดให้โทษประเภท 5 จนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยได้ และเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กัญชาได้กลายมาเป็นพืชที่สามารถปลูกเพื่อใช้ภายในครัวเรือนได้โดยเสรี ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะใช้ทางการแพทย์ หรือเพื่อการสันทนาการ ทำให้หลายคนคิดอยากลองปลูกกัญชากันบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมีคำแนะนำและเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการปลูกกัญชา ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ สายพันธุ์ ขั้นตอนการปลูก รวมถึงลงทะเบียนจดแจ้งปลูกกัญชามาฝากสำหรับมือใหม่กัน
กัญชา (Cannabis) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis Sativa L. อยู่ในวงศ์ Cannabaceae เป็นพรรณไม้จำพวกหญ้าต้นเล็ก ส่วนคำว่า มาลีฮวนน่า (Marijuana) เป็นคำแสลงของดอกกัญชาที่นำมาสูบนั่นเอง ต้นกัญชาเมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 300 เซนติเมตร ลักษณะลำต้นมีสีเขียว ตั้งตรง ช่วงเป็นต้นกล้าจะอวบน้ำ เติบโตช้าเฉพาะช่วง 6 สัปดาห์แรก เมื่อมีอายุได้ประมาณ 90-120 วัน จะเริ่มออกดอกเป็นช่อ อัดแน่นอยู่ตามซอกใบและปลายยอด ใช้สำหรับแยกเพศได้ มีใบเดี่ยวแยกเป็นแฉก 5-7 แฉก แต่จำนวนแฉกจะลดลงในช่วงสร้างดอก ขอบใบเว้าลึกถึงเส้นกลางใบและหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลม ผิวใบด้านบนมีสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ และมีเมล็ดรูปไข่ผิวเรียบเป็นมัน ลายสีน้ำตาล จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเมื่อผลแก่
สารสำคัญในกัญชามี 2 ชนิด คือ สารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol-CBD) และสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol-THC) ที่อยู่ในช่อดอก ซึ่งพบว่ามีประโยชน์ในทางการแพทย์ เช่น ใช้ในการรักษาโรคและอาการต่าง ๆ แต่เนื่องจากมีผลต่อจิตและระบบประสาท ดังนั้นจึงควรมีการใช้อย่างระมัดระวัง
หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดคิดว่า กัญชา และกัญชง คือต้นไม้ชนิดเดียวกัน แต่ กัญชง หรือเฮมพ์ (Hemp) นั้นเป็นพืชวงศ์เดียวกับกัญชา แต่กัญชงเป็นสายพันธุ์ย่อย โดยต้นกัญชงจะจะมีความสูงมากกว่า มีข้อปล้องยาวกกว่าเมื่อเทียบกับต้นกัญชา นอกจากนี้ในส่วนของใบกัญชงยังมีสีซีดกว่า หน้าใบเรียวและแคบกว่า ขนาดเมล็ดใหญ่กว่า และให้ปริมาณสารสำคัญไม่เท่ากัน
ต้นกัญชามี 2 ชนิดหลัก ๆ แยกได้ตามเพศขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยสังเกตได้จากลักษณะของลำต้น ดอก ใบ และมีการนำประโยชน์แตกต่างกัน ดังนี้
- กัญชาเพศผู้ : ลำต้นมีข้อถี่กว่า ใบเล็กและยาวกว่า ที่โคนกิ่งมีตาหรือดอก จะบานเมื่อต้นโตเต็มที่ ออกดอกน้อย ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกกันอิสระ มีสีเขียวอมเหลือง ยอดของช่อดอกตัวผู้จะเรียกว่า ดอก ระยะเวลาการบานประมาณ 2 เดือน ส่วนใหญ่จะปลูกเพื่อนำมาใช้ในการผสมพันธุ์
- กัญชาเพศเมีย : ลำต้นมีข้อห่างกว่า ใบใหญ่และสั้นกว่า ตาหรือดอกบริเวณโคนกิ่งจะหุบเมื่อต้นโตเต็มที่ ออกดอกเป็นช่อ กลีบเลี้ยงสีเขียวเข้ม ภายในมียอดเกสร (Stigma) 2 อัน สีน้ำตาลแดง อายุของดอกสั้น ใช้เวลาติดผลประมาณ 3-4 สัปดาห์ นิยมปลูกมากกว่าเพศผู้ เนื่องจากสามารถผลิตสารสำคัญได้มากกว่า
นอกจากนี้ยังมี กัญชากะเทย หรือกัญชาที่มี 2 เพศ คือมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมีย อยู่ในต้นเดียวกันได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น เกิดจากความเครียดและปัจจัยต่าง ๆ เช่น แสงแดดที่มากไป น้ำที่มากเกินไปหรือไม่เพียงพอ แมลงศัตรูพืชแมลง โรคของพืช หรืออาจจะถูกพัฒนาภายหลังก็ได้ แต่ไม่นิยมปลูกเพราะไม่เป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากมีสารแคนนาบินอยด์น้อยกว่ากัญชาตัวเมียนั่นเอง
ต้นกัญชาที่นิยมปลูกกันทั้งในไทยและต่างประเทศ จะแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ดังนี้
1. สายพันธุ์ซาติวา (Cannabis Sativa)
มีแหล่งกำเนิดจากหลายประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก โคลัมเบีย ตอนกลางของทวีปแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชอบอากาศร้อน ลำต้นหนา ความสูงประมาณ 6 เมตร ใบยาวเรียว สีเขียวอ่อน ใช้เวลาในการเติบโตประมาณ 9-16 สัปดาห์ถึงจะเก็บเกี่ยวได้ และให้สาร THC ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทสูงกว่าอินดิกา
2. สายพันธุ์อินดิกา (Cannabis Indica)
เป็นสายพันธุ์กัญชาที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และตะวันออกกลาง ชอบที่ร่มและอากาศเย็น มีลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย ความสูงประมาณ 1-2 เมตร กิ่งก้านดกหนา หน้าใบกว้างและสั้นกว่าสายยพันธุ์ซาติวา มีสาร CBD ที่ช่วยออกฤทธิ์ระงับประสาท ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการปวด จึงนิยมนำไปใช้ทางการแพทย์ โดยสายพันธุ์นี้จะเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวได้เร็ววกว่าซาติวา ใช้เวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์
3. สายพันธุ์รูเดอราลิส (Cannabis Ruderalis)
มีต้นกำเนิดในทวีปยุโรป มีลักษณะลำต้นเตี้ยที่สุดใน 3 สายพันธุ์ แต่มีระยะการเติบโตเร็วและสามารถอยู่ได้ทั้งในอากาศร้อนและเย็น มีระยะเวลาเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวประมาณ 30 วัน จุดเด่นอยู่ที่ใบกว้างเรียวยาวมี 3 แฉก โดยทั่วไปแล้วสายพันธุ์นี้มีสาร THC น้อย (เมื่อเทียบกับสองสายพันธุ์แรก) และมีปริมาณ CBD สูง จึงนิยมนำไปผสมข้ามสายพันธุ์ (Hybrid) กับซาติวาและอินดิกา เพื่อให้ได้คุณสมบัติทางยา
- การเตรียมดิน : ควรไถพรวนดินก่อนปลูกอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อให้ดินเกิดความอ่อนตัว ถ่ายเทอากาศได้ดี และเป็นการทำลายวัชพืชไปในตัวด้วย หลังจากที่ไถพรวนดินเรียบร้อย ให้ทำเป็นร่องระบายน้ำสูง 50 ซม. แต่ละแถวมีระยะห่างกัน 100 ซม. จากนั้นให้ขุดหลุมกว้างประมาณ 40-50 ซม. ลึก 40-50 ซม. และให้มีระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30-60 ซม. นอกจากนี้ยังสามารถรองก้นหลุมด้วยดินคลุกกับปุ๋ยคอกได้ โดยต้นกัญชาจะชอบดินร่วนปนทราย หรือดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ มีอินทรียวัตถุสูง และมีค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ระหว่าง 5.8-6
- การปลูก : ต้นกัญชา นิยมปลูกด้วย 2 วิธีคือ การหว่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตเส้นใย และการหยอดหลุมด้วยเมล็ดหรือต้นกล้า เพื่อผลิตเมล็ดและช่อดอก ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมากกว่า ทำได้โดยการหยอดเมล็ดพันธุ์ลงในหลุมปลูกที่เตรียมไว้หลุมละ 3-5 เมล็ด ให้มีความลึกประมาณ 1-2 ซม. หรือเพาะต้นกล้าให้มีอายุประมาณ 3-4 สัปดาห์ กระตุ้นให้กล้าแข็งแรง และงดรดน้ำ 1 วันก่อนย้ายปลูก จากนั้นให้ย้ายต้นกล้ามาลงหลุมปลูก หลุมละ 5-7 ต้น บริเวณที่ปลูกกัญชาควรมีอากาศเย็น ประมาณ 19-28 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังไม่ค่อยชอบน้ำมากนัก หรือเฉลี่ยประมาณ 500-600 มิลลิเมตรต่อวงจรการปลูกแต่ละครั้ง ทำให้นิยมปลูกกัญชากันในเดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์ เพื่อให้ได้ช่อดอกที่สมบูรณ์ พร้อมเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
- การรดน้ำและใส่ปุ๋ย : สามารถรดน้ำ ใส่ปุ๋ยโดยเฉพาะปุ๋ยคอก เช่น มูลไก่ มูลวัว รอบ ๆ ต้นได้ทุกวัน และควรหมั่นกำจัดวัชพืชและฉีดยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอด้วย นอกจากเมื่อต้นโตใกล้ออกดอก ควรหมั่นพรวนดิน ตัดรากรอบ ๆ ต้น เพื่อให้ต้นเป็นพุ่มเตี้ย ไม่โตสูงจนเกินไป
- การคัดต้น : เมื่อปลูกกัญชาได้ประมาณ 45 วัน หรือมีความสูงประมาณ 50-60 ซม. ก็สามารถแยกได้แล้วว่าต้นไหนเป็นกัญชาตัวผู้หรือกัญชาตัวเมีย ให้ถอนกัญชาตัวผู้ทิ้ง เก็บไว้เฉพาะกัญชาตัวเมีย
- การเก็บเกี่ยว : ต้นกัญชาสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุได้ 4 เดือนขึ้นไป หรือประมาณ 5-6 เดือน โดยทำได้ 2 วิธีคือ ถอนทั้งต้น หรือตัดครึ่งต้น และควรเก็บเกี่ยวในวันที่มีแสงแดดจัด เพราะจะทำให้มีสาร THC สูงมาก เมื่อเก็บเกี่ยวต้นกัญชาแล้ว ให้นำไปตากแดดจนแห้ง จากนั้นนำไปเคาะเมล็ดเพื่อใช้ทำพันธุ์ต่อไป
ใครที่อยากปลูกต้นกัญชาให้ถูกกฎหมาย สามารถทำได้ผ่าน 3 ขั้นตอน ดังนี้
- ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ plookganja.fda.moph.go.th หรืออแอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ทั้งระบบ Andriod และ IOS
- จดแจ้งตามวัตถุประสงค์
- รับเอกสารจดแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งในการปลูกกัญชาสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้ง ส่วนที่มีไว้ในครอบครองได้ คือ ช่อ ดอก ใบ กิ่ง ก้าน ราก ลำต้น และสามารถขายส่วนของพืชกัญชาได้ เช่น ใบ ดอก และลำต้น แต่หากต้องการขายเมล็ดพันธุ์ กิ่งพันธุ์ และต้นกล้า จะต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ. พันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากนี้สามารถครอบครองและขายกัญชาที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% แต่หากมีปริมาณสารสกัด THC เกิน 0.2% จะต้องมีการขอและออกใบนุญาตยาเสพติดให้โทษทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ส่วนการผลิตและจำหน่ายสินค้าจากัญชา-กัญชงจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กัญชา จัดว่าเป็นพืชที่มีความละเอียดอ่อน จำเป็นต้องอาศัยความเอาใจใส่อย่างมากทุกขั้นตอนการปลูก และสามารถพัฒนาให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และใช้ในครัวเรือนได้ ดังนั้นใครที่อยากปลูกต้นกัญชา หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เทคนิคการปลูก การขออนุญาต หรือการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ สามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือสายด่วนกัญชา กัญชง โทร. 1556 กด 3 ได้เลย