ถ้าจะพูดถึงมะขามเปรี้ยวยักษ์ถือเป็นพืชที่ปลูกง่ายทนแดดทนฝนทนแล้งได้ดี โดยมะขาวเปรี้ยวจะสลัดใบทิ้งในช่วง มีนาคม-เมษายน แต่หลังจากได้รับน้ำในช่วงต้นฤดูฝนมะขามเปียกจะแตกใบอ่อนอีกครั้งและจะติดดอกออกฝักได้ดี

มะขาวเปรี้ยวยักษ์ คืออะไร?

ถือเป็นมะขามเปรี้ยวที่มีพันธุ์ฝักใหญ่และติดผลในระยะยาว หลังจากปลูกเป็นระยะเวลา 3 ปี ก็จะติดฝักและเพิ่มผลผลิตไปเรื่อยๆ ตามอายุและความสมบูรณ์ของต้น

การปลูกมะขามยักษ์ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เว้นระยะในการปลูก 8*8 เมตร สำหรับพื้นที่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกได้ 25 ต้น

ลักษณะของต้นจะเป็นทรงพุ่มเตี้ย ฝักจะมีลักษณะโค้งคล้ายดาบ โดยฝักดิบจะมีน้ำหนัก 3-5 ฝัก ต่อ 1 กิโลกรัม ฝักสุกจะมีน้ำหนัก 14-18 ฝัก ต่อ 1 กิโลกรัม และรสชาติจะมีความเปรี้ยวมากกว่ามะขามบ้านธรรมดา 2-3 เท่า เลยทีเดียว

เทคนิคการสังเกตมะขามว่าเก็บผลผลิตได้หรือยังให้สังเกตได้จากสีของปลือกจะมีสีน้ำตาลนวลๆหรือน้ำตาลเหลือง ใช้นิ้วดีดเบาๆเมื่อสุกแล้วจะมีเสียงกลวงๆถ้ายังไม่สุกจะมีเสียงแน่นๆ และในฝักที่สุกแล้วเมื่อขูดผิวเปลือกออกมาฝักจะไม่มีรอย

โ ร คของมะขามเปรี้ยวยักษ์

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ แ ม ล ง มากัดกินใบอ่อนและโ ร ค ร า แ ป้ ง ข า วที่มักพบได้บ่อยในมะขาวทุกสายพันธุ์ มักจะเกิดในช่วงที่มีอากาศแห้งและเย็นโดยจะทำให้ต้นมะขามออกดอกและฝักได้น้อยลงและต้นทรุดโทรม วิธีแก้คือใช้กำมะถันผลฉีดพ่น1-2ครั้ง ก็เป็นอันใช้ได้

เตรียมหลุมปลูกมะขามยักษ์

ขุดดินกว้างลึก 50*50 นำปุ๋ยคุกและเศษหญ้ารองก้นหลุม ถ้าหากแล้งให้นำกากมะพร้าวชิ้นใหญ่รองก้นหลุมด้วย แล้วเทดินตามลงไปเล็กน้อยแล้วจึงค่อยนำต้นมะขามยักษ์ลงปลูก โดยให้หาไม้ช่วยค้ำต้นด้วย รดน้ำวันละหนึ่งครั้งในช่วงแรก และช่วงปลูกได้หลัง 6 เดือน ให้บำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยปุ๋ยคอก 100 กรัม/1ต้น และเพิ่มปริมาณในปีต่อไป 200-300 กรัม ตามลำดับปี และปีต่อไปให้เพิ่มปุ๋ยตามขนาดต้น

การดูแลรักษาต้นมะขาม

ในช่วง 2-3 ปีหลัง ถ้าต้องการเร่งให้มะขามรีบติดฝักให้หยุดให้น้ำและปุ๋ย ให้ต้นสลัดใบในช่วงฤดูร้อนหลังจากนั้นมะขามจะเริ่มแตกใบอ่อนและดอกออกมาและจะติดฝักได้ดี หลังจากนั้นจึงค่อยให้ปุ๋ยบำรุงและน้ำอย่างเต็มที่ พยายามเด็ดออกและฝักอ่อนทิ้งไปบ้างอย่าให้เยอะเกินไปเพราะอาจทำให้ต้นมะขามโทรมได้

ขอบคุณที่มา Postnoname