มะเขือเปราะ หรือเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่ามะเขือเสวย เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ที่มีขนสั้นๆ ปกคลุมไปทั่วทั้งใบและลำต้น ลักษณะของผลที่เก็บเกี่ยวมานั้นมีลักษณะเป็นผลกลมแป้น สีสันของผลจะมีความแตกต่างไปตามสายพันธุ์ตัวอย่างเช่น พันธุ์ไวโอเลตคิง ประกอบไปด้วยสีม่วงอมขาว หรือจะเป็นมะเขือเปราะคางกบ จะเป็นผลที่มีสีเขียวเข้มลายขาว ลักษณะของผลจะกลมรี
สำหรับมะเขือเปราะที่เรามักนิยมกินกันนั้นเป็นพันธุ์ เจ้าพระยา เป็นพันธุ์ดังเดิม ลักษณะเป็นสีเขียวอ่อนมีริ้วๆ สีขาว มีเนื้อที่กรอบ รสชาติ หวานปนขมเล็กน้อยสามารถนำไปประกอบอาหาร หรือเป็นเครื่องเคียงทานคู่กับน้ำพริกอร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะ
สำหรับการเพาะกล้ามะเขือเปราะ
1. เริ่มจากการเตรียมดินละเอียดพร้อมปุ๋ย ในอัตราส่วน 2:1 และใส่ดินผสมดังกล่าวลงในถาดพลาสติกเพาะกล้า
2. จากนั้นใช้เศษไม้เล็กๆ กดลงไปในดินที่บรรจุอยู่ในถาดพลาสติกเพาะกล้า ขนาดความลึก 0.5 ซม.
3. ให้นำเมล็ดมะเขือเปราะ หยอดลงในหลุมปลูกหลุมละประมาณ 1-2 เมล็ด
4. นำกลบดินผิวหน้าเมล็ดไปจากถาดพลาสติกเพาะกล้า โดยใช้ปูนขาวโรยเป็นเส้นล้อมถาดเพาะไว้
5. จากนั้นเพาะไว้ประมาณ 7-10 วัน จะเห็นว่ามะเขือเปราะเริ่มงอก ให้รดน้ำต้นกล้ามะเขือเปราะทุกวันๆละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเข้าและเย็น รดน้ำจนกระทั่งต้นกล้ามะเขือเปราะมีอายุ 25-30 วัน แล้วจึงย้ายกล้ามะเขือเปราะลงปลูกในกระถางหรือในแปลงปลูก
วิธีการเตรียมในแปลงหรือในกระถางปลูกมะเขือเปราะ
1. สำหรับใครที่จะปลูกในแปลง ให้เตรียมดินปลูก โดยใช้จอบขุดย่อยดินหน้าดินลึกประมาณ 15-20 ซม. แล้วย่อยดินให้ละเอียด ใส่ปุ๋ยหว่าน และคลุกเคล้าให้เข้ากับดินในแปลง
2. สำหรับการปลูกในกระถาง ให้ผสมดินปลูกในกระถาง โดยใช้ดินร่วนละเอียดผสมกับปุ๋ยในอัตราส่วน 2:1
วิธีดูแลรักษามะเขือเปราะ
1. ย้ายกล้ามะเขือเปราะลงปลูกในแปลงหรือในกระถาง
2. รดน้ำทุกวันและในช่วงการติดผลต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
3. หลังย้ายปลูกแล้ว 7-10 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 1/4 ช้อนชา ควรห่างโคนต้นประมาณ 2-3 เซนติเมตรและรดน้ำทันที
4.หลังย้ายปลูกนาน 45-60 วัน มะเขือเปราะเริ่มทยอยผลผลิตสามารถเก็บผลผลิตไปบริโภคได้
5.หลังจากที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมะเขือเปราะไปแล้วประมาณ 2 เดือน แต่งกิ่งออกบ้างเพื่อทำให้ลำต้นมะเขือเปราะเจริญเติบโตจะให้ผลผลิตรุ่นใหม่ได้อีก
Related posts