การปลูกยางพาราของเกษตรกรไทยในปัจจุบันนั้น เกิดปัญหาขึ้นอย่างมาก เพราะราคาที่ตกต่ำอย่างหนักหน่วง ทำให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราบางรายเริ่มท้อถอย และเลิกปลูกไป วันนี้เราจึงมีพืชชนิดหนึ่งมาแนะนำ เป็นพืชที่สามารถปลูกแซม หรือปลูกเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร พืชชนิดนั้นคือ โกโก้

โกโก้ เป็นพืชที่ดูแลง่าย ไม่ค่อยมีศัตรูพืชรบกวนอีกทั้งยังมีอายุยืนหลายสิบปี โดยโกโก้จะเริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 3 สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน ซึ่งราคาของโกโก้นั้นไม่แกว่งมากเท่ายางพารา หรือปาล์มน้ำมัน เพราะความต้องการโกโก้นั้นมีสูงในภาคอุตสาหรรม เช่น การผลิตเครื่องสำอาง  ช็อกโกแลต เป็นต้น จึงทำให้ราคาของโกโก้นั้นสูงด้วย

วิธีการปลูกและการดูแลรักษา

วิธีคัดเลือกเมล็ดพันธุ์

  • เลือกเมล็ดที่มีคุณภาพดี
  • เลือกผลที่แก่จัด มีความสมบูรณ์ ไม่มีโรคและแมลงทำลาย
  • ต้นแม่พันธุ์ให้ผลผลิตสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี
  • เป็นเมล็ดที่ได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้

วิธีการเพาะเมล็ด

  • ขยำผลให้เปลือกและเนื้อแยกออกจากเมล็ดให้หมด แล้วนำเมล็ดที่ได้ไปผึ่งลมให้แห้ง
  • นำเมล็ดไปวางในวัสดุเพาะ กลบดินบางๆ ประมาณ 7 วัน รากจะงอกออกมา
  • เมื่อต้นกล้าโกโก้อายุประมาณ 4 ถึง 6 เดือน หลังจากเพาะเมล็ด หรือมีความสูงของต้นประมาณ 50 ถึง 60 เซนติเมตร หรือมีใบแตกได้ 3 ฉัตร จึงนำไปปลูก.

ขั้นตอนการปลูกโกโก้

  • เตรียมหลุมปลูกให้มีความกว้าง 30 เซนติเมตร x ยาว30 เซนติเมตร x ลึก 30 เซนติเมตร ใช้ระยะปลูก 3×3 เมตร หรือใช้ระยะปลูก 2.50×2.50 เมตร กับต้นกล้าโกโก้สายพันธุ์แท้
  • ตากหลุมทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน
  • นำดินบนที่ขุดขึ้นมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก คลุกเคล้าให้ทั่วจากนั้นเกลี่ยลงหลุมให้เต็ม
  • ใช้มีดกรีดตามแนวข้างถุงเพาะชำโกโก้ แล้วแกะถุงพลาสติกออก ระวังอย่าให้ดินที่เพาะต้นโกโก้แตกกระจาย เพราะจะทำให้รากได้รับความกระทบกระเทือน ทำการตัดปลายรากแก้วที่คดงอออกทิ้ง ต้นกล้าโกโก้ควรมีระบบรากสมบูรณ์ ไม่คดงอ
  • เปิดหลุมแล้วนำต้นกล้าโกโก้ลงปลูกตรงกลางหลุม เกลี่ยดินกลบให้มิด
  • ปักหลักไม้แล้วใช้เชือกรั้งต้นกล้า เพื่อช่วยยึดต้นกล้าโกโก้ให้แน่น
  • รดน้ำพอชุ่ม
  • ใช้จอบหรือพลั่วแทงดินในแนวดิ่ง เพื่อตัดรากพืชอื่นที่มีอยู่ในรัศมี 50 เซนติเมตร จากโคนต้นโกโก้ให้ลึกลงไปในดินประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้รากต้นไม้อื่นเข้ามาทำอันตรายต้นกล้าโกโก้ที่ปลูกใหม่

การดูแลหลังการปลูก

  • การให้น้ำ

รดน้ำโกโก้พอชุ่มอย่างสม่ำเสมอวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเช้า ระวังอย่าให้ต้นโกโก้ขาดน้ำ เพราะจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต

  • การให้ปุ๋ย
  1. ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพหรือจุลินทรีย์ประมาณ 1 ถึง 2 เดือน ต่อครั้ง
  2. ใส่มูลค้างคาวประมาณ 1 ถึง 2 กำมือ ต่อต้น ประมาณ 3 เดือน ต่อครั้ง
  3. ใส่กระดูกป่นปีละ 1 ครั้ง
  4. ใส่ปุ๋ยคอกที่ย่อยสลาย และยิบซั่มธรรมชาติ ปีละ 2 ครั้ง

การตัดแต่งกิ่ง

  • ในปีแรกหลังการปลูก ควรทำการตัดแต่งกิ่งรอบๆ ทรงพุ่มของโกโก้ทุก 60 วัน เพื่อช่วยให้ต้นโกโก้เจริญเติบโตและตั้งเรือนยอดหรือจุดคาคบ ครั้งแรกให้ได้ระดับความสูงประมาณ 1.5 ถึง 2.0 เมตร
  • ให้ตัดหน่อหรือกิ่งกระโดงที่แตกใหม่ออกทุก 2 ถึง 4 เดือน
  • ตัดแต่งกิ่งแขนงที่แตกสะเปะสะปะภายในทรงพุ่มออกเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง
  • ตัดลำต้นหลักของโกโก้ที่แตกหักหรือยอดที่ถูกทำลายจากโรคหรือแมลงศัตรู หรือกิ่งที่ไม่แข็งแรงออก ในระยะที่สูงจากพื้นดินประมาณ 20 ถึง 30 เซนติเมตร แล้วทาแผลด้วยปูนขาวหรือปูนแดง จากนั้นปล่อยให้เกิดหน่อใหม่ และเมื่อหน่อใหม่เจริญเติบโตควรคัดเลือกหน่อที่แข็งแรงที่สุดประมาณ 2 ถึง 3 หน่อ ที่อยู่รอบนอกของต้นโกโก้เดิม แล้วพูนดินรอบๆ โคนต้น และเมื่อแตกทรงพุ่มจึงตัดให้เหลือไว้เพียงหน่อเดียวหรือต้นเดียว

การเก็บเกี่ยวผลผลิต

          โกโก้ที่ปลูกด้วยเมล็ดจะเริ่มติดผลประมาณ 2 ถึง 3 ปี หลังปลูก และในช่วงปีที่ 8 ถึง ปีที่ 15 จะเป็นช่วงที่ให้ผลดกที่สุด มีระยะเวลาหลังออกดอกจนถึงผลสุกพร้อมเก็บเกี่ยวประมาณ 5 ถึง 6 เดือน

วิธีเก็บผลโกโก้

           เก็บผลที่เริ่มมีสีเหลืองหรือสีส้ม โดยใช้กรรไกรตัดขั้วผล ไม่ควรใช้มือเด็ด เพราะช่วยป้องกันขั้วบนกิ่งไม่ให้ช้ำ ทำให้ดอกรุ่นต่อไปมีความสมบูรณ์ และแทงดอกได้ง่าย

การหมักโกโก้
การหมักโกโก้ ให้โกโก้มีกลิ่น และรสที่อร่อย มี 4 รูปแบบ ที่นิยมหมักในประเทศไทย ดังนี้

การหมักในลังไม้

-ใช้ถุงตาข่ายบรรจุเมล็ดโกโก้ ขนาด 5 กิโลกรัม นำเรียงซ้อนกันในลังไม้ ขนาด กว้าง ยาว และสูง ประมาณ 30 x 40 x 30 เซนติเมตร แล้วนำกระสอบมาปิดทับ แล้วหมักทิ้งไว้นานประมาณ 5 ถึง 6 วัน ใน 3 วันแรกทำการกลับเมล็ดในถุงตาข่าย
การหมักในกะบะหรือถาดไม้

         – นำเมล็ดโกโก้มาในกะบะไม้ขนาด ยาว 90 กว้าง 60 และสูง 10 เซนติเมตร เทเมล็ดโกโก้เป็นชั้นๆ จากนั้น นำกะบะมาเรียงซ้อนกันตั้งแต่ 8 ถึง 12 ชั้น ส่วนด้านบนสุดปิดทับด้วยใบตองหรือกระสอบป่าน หมักนานประมาณ 5 ถึง 7 วัน ระหว่างหมัก 1 ถึง 2 วัน ให้สลับชั้นกะบะจากบนลงล่าง

การหมักในเข่ง

– นำเมล็ดที่แกะแล้วมาใส่ในเข่ง เข่งละประมาณ 20 ถึง 200 กิโลกรัม รองด้านข้างเข่งให้รอบด้วยใบตอง และวางใบตองทับด้านบนเข่งอีกประมาณ 2 ถึง 3 ชั้น
– หมักทิ้งไว้ประมาณ 5 ถึง 7 วัน และในช่วง 1 ถึง 2 วัน ให้ย้ายเมล็ดไปหมักในเข่งใบใหม่ด้วยวิธีเดียวกันกับครั้แรกและหมักจนครบกำหนด

การหมักเป็นกองบนพื้น

        – นำเมล็ดที่แกะแล้วมากองรวมกันบนพื้นที่รองด้วยไม้ กองสูงประมาณ 60 ถึง 90 เซนติเมตร ใช้เมล็ดโกโก้ประมาณ 400 ถึง 500 กิโลกรัม ต่อกอง ด้านบนกองคลุมด้วยผ้าหรือใบตองสด หมักทิ้งไว้ประมาณ 5 ถึง 7 วัน พร้อมกลับเมล็ดทุกๆ 1 ถึง 2 วัน

การตากโกโก้

        ตากบนเสื่อหรือบนลานซีเมนต์ วางเมล็ดทับกันหนาประมาณ 2 ถึง 3 เซนติเมตร เท่านั้น เพื่อจะให้เมล็ดได้แห้งสนิททั่วทั้งเมล็ด ตากแดดประมาณ 2 ถึง 3 วัน และคอยกลับเมล็ด อย่าให้โดนฝนระหว่างการตาก เมื่อเมล็ดโกโก้แห้งดีแล้ว เมล็ดจะต้องมีความชื้นไม่เกิน 7.5% ภายในเมล็ดจะเปลี่ยนสีเป็นสีโกโก้หรือสีน้ำตาลอ่อน จากนั้นใส่เก็บไว้ในกระสอบ หรือถุงพลาสติกสูญญากาศรอการแปรรูป หรือขนส่งไปยังโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูป

การคั่วเมล็ดโกโก้แห้ง

         นำเมล็ดโกโก้แห้งมาคั่วประมาณ 10 ถึง 30 นาที ที่อุณหภูมิ 120 ถึง 130 องศาเซลเซียส ขั้นตอนการคั่วเป็นขั้นตอนสำคัญซึ่งมีผลกระทบต่อรสชาติสุดท้ายของโกโก้ ต้องอาศัยทักษะในการเช็คสี กลิ่น และรส
เมื่อคั่วเสร็จใช้ลมเป่าที่เรียกว่า Winnowing กำจัดเปลือกที่ห่อหุ้มเมล็ดโกโก้ออกไป เหลือไว้เพียงเมล็ดโกโก้ที่คั่วแล้ว จึงจะนำไปเข้ากระบวนการแปรรูปต่อไป

 

 

 

แหล่งที่มา

ขอขอบคุณ : การปลูกโกโก้ / โกโก้