จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก พบได้ตามในดิน และ แหล่งน้ำตามธรรมชาติ ทั้วไป ที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ต่อมาเกษตรกรมีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรมากขึ้น ทำให้ตัวจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงตามธรรมชาตินั้นลดจำนวนน้อยลงไปมาก เราจึงต้องทำการหมักและเพาะจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงขึ้นมาด้วยตัวเอง
คุณสมบัติ และ ข้อดี ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเมื่อนำมาใช้ในการเกษตร
– เป็นตัวช่วยเร่งปฎิกิริยาในการย่อยสลาย ทำให้เกิดปุ๋ยในดินได้เร็วขึ้น
– มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจน
– ใช้งานร่วมกับปุ๋ย ทำให้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยลง 30 – 50 %
– เป็นจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกระบวนการรีไซเคิล คาร์บอน และ สารจำพวกซัลเฟอร์ ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของต้นไม้
– ทำให้รากของพืชแข็งแรงสามารถหาอาหารได้เก่งสามารถดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น
– พืชมีความแข็งแรงต้านทานโรคพืชต่างๆได้ดี
– ฉีดพ่นในคอกสัตว์ช่วยทำความสะอาด และ ลดกลิ่นเหม็นของมูล
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ( รวมแล้วประมาณ 500 บาท )
– น้ำปลาขวดใหญ่ 3 ขวด ประมาณ 75 บาท
– ไข่ไก่ 3 แผง ประมาณ 300 บาท
– ผงชูรส 1 กิโลกรัม 100 บาท
– กะปิ 2 กระปุกเล็ก 40 บาท
ขั้นตอนวิธีทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
1. ตอกไข่ลงไป 2 ฟอง ตีให้ไข่ขาวกับไข่แดงเข้ากัน
2. ใส่ผงชูรสครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ กะปิครึ่งช้อนโต๊ะ ( กะปิเป็นอาหารของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เป็นตัวช่วยเร่งให้ติดแดงได้ง่ายขึ้น )
3. คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วตักใส่ขวดน้ำ ( อัตราส่วน 3 ช้อนโต๊ะ ต่อ น้ำขวด 1.5 ลิตร 1 ขวด )
4. ใส่น้ำเปล่าตามลงไปจนเต็ม เขย่าให้เข้ากัน แล้วนำไปตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน
5. หลังจากนั้นก็จะเริ่มเป็นสีแดง แสดงว่าตัวจุลินทรีย์สังเคราห์แสงนั้นเจริญเติบโตจนเต็มขวดแล้ว
อย่างที่กล้าวเอาไว้ในข้างต้นว่า จุลินทรีย์สังเคราห์แสงนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ และ ในดิน เราแค่นำเอามาเพาะเลี้ยงด้วย กระปิ น้ำปลา ผงชูรส ไข่ไก่ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของตัวจุลินทรีย์
ส่วนที่ในขวดเป็นสีแดงนั้นเป็นสัญญานบ่งบอกว่า น้ำในขวดเต็มไปด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราห์แสง ซึ่งพร้อมสำหรับการนำไปใช้งานต่อไป
เคล็ดลับที่ทำให้จุลินทรีย์สังเคราห์แสงติดแดง 100%
– หากใช้น้ำประปา จะออกเป็นสีเขียว สีขวา หรือ แดงไม่เต็มที่
– หากใช้น้ำ บึง สระ ( โดยเฉพาะน้ำจากบ่อเลี้ยงปลา ) จะได้ผลดีมาก แดงภายใน 5-7 วัน
– น้ำบาดาล จะติดแดงบ้าง ขาวบ้าง ขึ้นอยู่กับสารเจอปนในแหล่งน้ำ
อ้างอิงจากข้อมูลของ อาจารย์ มนตรี นักระนาด ที่ท่านทดลองทำมาแล้วหลายครั้งแล้วได้ผลดังกล่าว ทำให้สรุปได้ว่า น้ำที่ใช้ได้ดีที่สุดควรเป็นน้ำจากจากบ่อเลี้ยงปลา อาจเพราะมีจุลินทรีย์สังเคราห์แสงอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำอยู่เยอะ เพราะได้มูลปลาและอินทรีย์วัตถุต่างๆที่ปลาหากินในบ่อเป็นอาหารเลี้ยงอยู่แล้ว ทำให้จุลินทรีย์สังเคราห์แสงที่อยู่ในแหล่งน้ำเหล่านี้แข็งแรง และ มีการเจริญเติบโตดี เวลานำน้ำจากแหล่งน้ำเหล่านี้มาเพาะจุลินทรีย์สังเคราห์แสง จึงทำให้เจริญเติบโตได้เร็วและติดได้ง่ายกว่าจากแหล่งน้ำอื่น
วิธีนำไปใช้
– จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 100 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบ ทุกๆ 7 วัน
– จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 100 ซีซี / น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นลงดิน ทุกๆ 7 วัน
ขอบคุณที่มา : อาจารย์ มนตรี นักระนาด , เกษตรพอเพียง
Related posts