กระทกรก หรือ เสาวรส ที่กำลังนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ กลุ่มที่ชอบรสชาติที่เปรี้ยวจัดของเสาวรสรวมถึงหลงรักในกลิ่นเฉพาะตัวของเสาวรส และเนื่องด้วยเสาวรสเป็นไม้ผลที่มีสรรพคุณและคุณประโยนช์ที่หลายหลาย ช่วยบำรุงสายตา และผิวพรรณ เพราะมีวิตามินเอ สูง ทั้งยังช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดไขมันในเส้นเลือด และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทว่าสรรพคุณเสาวรสไม่เพียงมีเท่านี้ ประโยชน์อื่นๆเป็นดังนี้
- เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ในขณะที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 97 แคลอรีเท่านั้น
- เสาวรสช่วยในการขับถ่าย มีไฟเบอร์สูง สามารถช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ไปได้ในตัว
- ห่างไกลจากไข้หวัด เพราะในเสาวรสนั้นมีวิตามินซี สูง คือ 37.1 มิลลิกรัม ต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งมีมากกว่ามะนาวเสียอีก
- บำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เพราะไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยวิตามินเอเท่านั้น ทว่าเสาวรสยังพ่วงสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนและคริบโทแซนทินเบต้า (cryptoxanthin-ß) ที่ผ่านการศึกษามาแล้วว่า สารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
- บำรุงหัวใจและความดันโลหิต เพราะเสาวรสอุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384 มิลลิกรัมต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งโพแทสเซียมนั้นสำคัญมากต่อเซลล์และของเหลวในร่างกายของเรา รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย
- ป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งช่องปาก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์และวิตามินเอมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
ประโยชน์ทางด้านอาหารของเสาวรส
- ส่วนยอด ใช้เป็นผักสด มีรสขมเล็กน้อย หรือทำการลวกจิ้มกับน้ำพริกและใช้ทำแกงเลียง
- ส่วนผล ใช้กินเมล็ดและเยื่อหุ้มเมล็ด
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
- ส่วนเนื้อไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิดและใช้รักษาบาดแผล
- ส่วนราก ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข แก้กามโรค
- ส่วนใบ ใช้ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อและขับพยาธิ
- ส่วนดอก ขับเสมหะ แก้ไอ
- ส่วนผล แก้ปวด บำรุงปอด ใบสด ใช้พอกแก้สิว
- ส่วนต้น ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ และอาการบวม
เสาวรส เป็นไม้ผลเขตร้อนชนิดไม้เถาเลื้อยคล้ายตำลึง เถาค่อนข้างคดไปงอมา เถามีหนามเล็ก ๆ ขึ้นอยู่อย่างห่าง ๆ โดยทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว รูปใบมนโค้งผิวเรียบปลายใบแหลมโดยแยกเป็นสามแฉก ใบและเส้นใบบริเวณที่ติดต่อกันมีสีแดงเรื่อ บริเวณใกล้โคนก้านใบมีแฉกแหลมเล็กเรียงตรงกันข้ามสลับกัน ก้านใบ มีขนาดก้านไม้ขีด ยาว 5 –6 เซนติเมตร มีขนอ่อนเป็นฝอยขนาดเล็ก ดอกมีลักษณะก้านดอกยาวกว่าใบ ดอกบานออกกลมกว้าง กลีบดอกสีขาวแซมด้วยริ้วสีม่วง ผลค่อนข้างกลมขนาดปลายนิ้วมือ และห่อหุ้มด้วย “รก” ผลสุกมีสีเหลือง
เราสามารถแบ่งเสาวรสออกเป็น 2 ชนิด ตามการใช้ประโยชน์ คือเสาวรสโรงงาน มี 2 พันธุ์ ได้แก่ ผลสีเหลือง และผลสีม่วง และเสาวรสรับประทานสดหรือเสาวรสหวาน ซึ่งมีอยู่ 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์รับประทานสด1 และรับประทานสด 2 ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์ มีผิวผลสีม่วง ทำการขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด นิเวศวิทยาและการแพร่กระจายนั้นขึ้นอยู่ตามที่รกร้างหรือขอบไร่ชายนา และบริเวณป่าพื้นราบ โดยเลื้อยพันกิ่งต้นไม้อื่น ๆ
โดยทั่วไปแล้วเสาวรสเป็นผลไม้อุตสาหกรรมคือปลูกเพื่อนำผลผลิตไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้เนื่องจากในผลมีน้ำมาก รสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมแต่ก็สามารถรับประทานผลสดได้ โดยเฉพาะบางพันธุ์ที่ผลมีรสชาติค่อนข้างหวาน เสาวรสเป็นพืชที่โครงการหลวงเลือกให้เป็นพืชในการส่งเสริมเกษตรที่ต้องการให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชยืนต้น สำหรับการแก้ปัญหาในการเผาพื้นที่ เพราะเนื่องจากเป็นไม้ผลที่ให้ผลผลิตเร็ว และมีความต้องการสูง ดังนั้นในอนาคตอันใกล้เสาวรสรับประทานสด(ขายได้ราคาดีการเสาวรสแปรรูป)จะเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง