การใช้ปุ๋ย ที่ตรงกับความต้องการของพืชและความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่เพาะปลูกเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการทำเกษตรเพื่อให้เกิดการใช้ปัจจัยการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

โดยชุดดินในประเทศไทยมีมากกว่า 200 ชุดดิน แต่ละชุดดินมีคุณสมบัติ แตกต่างกันไป เมื่อนำมาใช้เพาะปลูก นอกจากนี้ในแต่ละพื้นที่ของชุดดินนั้นๆก็มีความอุดมสมบูรณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการใช้ปุ๋ยที่ตรงกับความต้องการของชนิดและพันธุ์พืช จึงต้องมีการระบุชุดดินและจำเป็นต้องมีการตรวจวิเคราะห์ความอุดมสมบูรณ์ของดินก่อนการเพาะปลูกและการใช้ปุ๋ย

 เทคโนโลยี “ปุ๋ยสั่งตัด”  จึงเป็นนวัตกรรมที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนการใช้ปุ๋ยเคมีในประเทศไทย

 

 

“ปุ๋ยสั่งตัด” เทคโนโลยีการจัดการธาตุอาหารพืชเฉพาะพื้นที่ ที่ช่วยให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยถูกชนิดและถูกปริมาณ และทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยที่สูงขึ้น

คำแนะนำ “ปุ๋ยสั่งตัด” ได้จากการนำปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต และการให้ผลผลิตของพืช ได้แก่ พันธุ์พืช แสงแดด อุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณน้ำฝน ชุดดิน ปริมาณ เอ็น-พี-เค ในดินขณะนั้น ฯลฯ มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อนำไปคาดคะเนคำแนะนำปุ๋ย เอ็น-พี-เค ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด

ถ้าต้องการคำแนะนำ “ปุ๋ยสั่งตัด” ต้องทำอะไรบ้าง?
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบข้อมูลชุดดิน สอบถามข้อมูลชุดดิน ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด ดูจากแผนที่ชุดดิน
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์ เอ็น-พี-เค ในดิน โดยชุดตรวจสอบ เอ็น- พี-เค ในดินแบบรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 30 นาที และ “ต้องเก็บให้ถูกวิธี”
ขั้นตอนที่ 3 ปฏิบัติตามสูตรปุ๋ยสั่งตัด ตามคำแนะนำ
จาก 3.1. คู่มือคำแนะนำ
       3.2. โปรแกรมแนะนำ

โปรแกรมคำแนะนำ “ปุ๋ยสั่งตัด” มีพืช 3 ชนิดคือ
    ข้าว (SimRice) ข้าวโพด (SimCorn) และอ้อย (SimCane) เฉพาะอ้อยที่ปลูกในภาคอีสาน

ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยสั่งตัด
     1.  เกษตรกรปลอดภัยจากสารเคมี
     2.  ลดการใช้สารเคมี
     3.  ลดการใช้ปุ๋ยเคมี
     4.  ประหยัดค่าใช้จ่าย
     5.  ผลผลิตได้คุณภาพและปลอดภัย
     6.  ปริมาณมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-20%

 

 

 

แหล่งที่มา

ขอขอบคุณ : GNews